วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561

รีวิว : Singapore 2018-3 Days 2 Nights at Merion Skyline Luge Sentosa and Singapore Science Center

พาลูกเที่ยวสิงคโปร์ ครั้งแรก

Period : 27 - 29 Nov 2018
Route line : Raffle Place - East Jurong - Raffle Place

   จุดเริ่มต้นของการเดินทาง เราสองคนอยากพาเจ้าลูกชายวัย 4 ขวบไปลองภาษาอังกฤษของจริงกับคนต่างชาติ แค่อยากให้เห็นว่าการใช้ภาษาสำคัญในการเอาตัวรอด โดยที่พ่อและแม่อย่างเราต้องโชว์ให้เห็นจริงแล้วเค้าก็จะเชื่อ....และที่สำคัญที่สิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆ อีกทั้งเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงจากไทย ถือว่าไม่หนักหนาสำหรับครั้งแรกของเจ้าตัวเล็ก....

การเตรียมตัวของเราก่อนเดินทาง..........

  • แผนการเดินทาง ควรต้องวางไว้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า จุดหมายคือที่ไหน เราจะสามารถวางแผนเรื่องที่พัก และการเดินทางทุกอย่างได้ครับ ครั้งนี้เรามีเด็กไปด้วยเลยเลือกแต่ที่สำหรับเด็ก ค่าใช้จ่ายไม่แพง เน้นความรู้และสิ่งใหม่ๆรอบตัวครับ แนะนำมีแผนดีกว่าไม่มีแผนครับ แผนเราเป็นแบบนี้ครับ
          27-Nov : Changi Airport - Lavender - Raffle Place
          28-Nov : Lavender - East Jurong (Singapore Science Center)
                          - Sentosa - China Town
          29-Nov : Bukit - Changi Airport
          ใครไป route นี้นำไปใช้ได้นะครับ ยินดีครับ
  • ตั้๋วเครื่องบิน : เราเลือกใช้สายการบิน Singapore Airline เป็นสายการบินแบบ Full service ราคาโดยรวมแล้วจริงๆ แทบไม่ต่างกับ Low cost เลย ราคานี้คุ้มมากๆ 5,700 ฿/คน (note: ราคาโปรมาช่วงเดือนกันยายน) 
  • โรงแรม : เราเลือก V-Hotel Lavender ข้อดีของโรงแรมนี้คือตัวโรงแรมอยู่ข้างบน MRT Lavender เลยที่สำคัญมี Public Food อยู่ด้านล่างเลย ราคาอาหารไม่แพงและมีให้เลือกหลาย อย่าง  ถ้ามีเด็กเล็กมาด้วยแนะนำที่นี่เลยครับ ราคาโรงแรม 2,000 บาท/คืน 
  • การเดินทาง : ทริปนี้เน้นการขึ้นรถไฟฟ้าเป็นหลัก เราแนะนำให้ซื้อเป็นบัตร EZ-Link ครับ สามารถเติมเงินได้ครับ มีค่ามัดจำบัตร 5 SGD และเราเติมเอาไว้สำหรับขึ้นรถทุกชนิด 20 SGD ถือว่าเหลือเฝือเลยครับ บัตรนี้ซื้อได้ตั้งแต่ที่สนามบิน Changi ครับ ตรงสถานี MRT Changi ครับ ส่วนของเด็กฟรีครับ
  • Pass ต่างๆ : เราซื้อ Voucher เข้า Singapore Science Center จาก Klook ราคาจะถูกกว่าซื้อที่สิงคโปร์และสามารถนำไปแลกที่ทางเข้าได้เลยครับ แนะนำถ้าใครจะไปเล่น Skyline Ruge ที่ Sentosa แนะนำให้ซื้อ Voucher ไปก่อนครับเพราะราคาถูกกว่าที่ Sentosa เยอะมาก (T_T)...เสียดายเราไม่ได้ซื้อไป
  • Pocket wifi : ขาดเธอขาดใจ ขาดไม่ได้จริงๆ เราใช้ของ 4G pocket wifi วันละ 170฿ แรงไม่สะดุด ทำให้แผนที่วางไว้ทั้งหมดสมบูรณ์แบบ (ราคาไม่แรง แต่ดีมาก) จองไว้ก่อน ไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อนบินได้เลย
  •  App ที่จำเป็น : Mytransport และใช้ร่วมกับ Google Map แค่นี้ก็พอแล้ว

การเดินทาง..........

@27-์Nov-18
           เราออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 9:45 am. ถึงสนามบิน Changi สิงคโปร์ เวลา 13:15 p.m.
    จัดการรับกระเป๋าทำธุระต่างๆเสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพราะเรามีเด็กและผู้สูงอายุไป      ด้วย ทำให้เวลาต่างๆที่วางแผนไม่ได้เป็นไปตามนั้น
           ลงมาที่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อเข้าเมือง เราสามารถซื้อบัตร EZ-Link และเริ่มใช้ได้เลยทันที
          🚈  Changi Airport - Tannah Merah (เปลี่ยนรถที่สถานีนี้) - Lavender ใช้เวลาประมาณ 30 นาที 
          🏩  Check-in ที่ V-Lavender Hotel พักทั้งหมด 2 คืน
     📷หลังจากนั้นก็เดินทางเพื่อไปชม Merlion
          🚈  Lavender - Raffles Place ใช้เวลาประมาณ 15 นาที 
           ลงที่ Raffles Place แล้วก็หาป้ายเพื่อเดินออกไปที่ โรงแรม Fullerton Hotel และเดินชมวิว
           เลียบแม่น้ำสิงคโปร์ ได้บรรยากาศดีมาก

         
            แล้วเดินต่อไปอีกไม่ไกล เดินข้ามสะพาน Esplanade วิวตรงนี้เป็นวิวเมืองที่ดูสวยงามมากๆ


            หลังจากข้ามสะพาน Esplanade มานิดเดียวเดินลงมาก็จะเจอกับเจ้าสิงค์โตพ่นน้ำแล้ว สามารถ 
            เดินเล่นตรงสะพาน Jubilee วิวของ Marina Bay จากมุมนี้นี่สวยงามจริงๆ ยิ่งตอนใกล้ค่ำนี่แสงมัน 
            จะสวยมากๆ ใครชอบถ่ายรูป แถวๆนี้ จัดได้หลายร้อยรูปเลย เจ้าลูกชายก็เดินเล่น วิ่งเล่น แถวๆนี้
            ไม่มีเบื่อเลย





               แป๊บเดียวผ่านไป 4 ชม. โห....เราใช้เวลาไปกับที่นี่ทั้งหมดในวันแรกที่มาถึง เพื่อรอดูการแสดง 
               แสงสีเสียงตอนรอบ 20:00 p.m. (ฟรี) ซึ่งดูจบ เจ้าลูกชายถามมาคำนึงว่า พ่อครับ เรามาดูอะไร
               กันอ่ะครับ..... เด็กเล็กอาจจะไม่ตื่นเต้นเร้าใจสักเท่าไร แต่สำหรับผู้ใหญ่อย่างเรามันก็โอเคนะ

@28-Nov-18
          วันนี้วางแผนพาลูกชายไปเที่ยวที่ Singapore Science Center แถบๆ Jurong การเดินทางไม่ยากใช้ 
    เวลาจาก Lavender ไปถึงสถานี Jurong  อารมณ์ประมาณนั่งรถไฟออกนอกเมืองครับ แล้วเดินไปอีกไม่
    ไกลก็จะไปถึงที่หมาย
         🚈  Lavender - Jurong East ใช้เวลาประมาณ 40 นาที 


     หลังจากลงจากสถานี MRT Jurong East มาแล้วก็เดินลงมาด้านล่าง สังเกตด้านซ้ายมือจะมีห้าง 
     J-Cube ให้เดินมาทางโซนด้านซ้ายนี้ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดว่า Science Center 
     ไปทางไหน 😂เสียดายที่นี่เราไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ เพราะเดินชมที่แสดงและคอยอธิบายสิ่งต่างๆ ตาม
     หลักวิทยาศาสตร์ให้ลูกชายฟัง เราใช้เวลาไปด้วยกันซึ่งลูกชายชอบที่นี่มากๆ อยากรู้ อยากเห็นใน
     ทุกๆจุด เหมาะมากๆในการพาเด็กๆที่เพิ่งเริ่มคิดอยากรู้ มาเที่ยวที่นี่เพื่อสร้างจินตนาการครับ👍👍👍

            🚈  Jurong East - Habour Front ใช้เวลาประมาณ 45 นาที 
     จุดหมายต่อไป หลังจากเรียนรู้กับวิทยาศาสตร์แล้ว เราพาลูกชายไปเล่นที่ Sentosa ครั้งนี้เราพาเค้า
     ไปออกกำลังกับการเล่น Skyline Ruge เป็นการสไลด์ลงจากภูเขา โดยต้องนั่งกระเช้า ขึ้นไปข้างบน
     ภูเขา  เด็กเล็กนั่งหน้าแล้วเราเป็นคนควบคุมครับเจ้าลูกชายบอกให้ซิ่งตลอดทางเลย สนุกมากๆ 
     ราคาเหมา 3 คน ประมาณ 1,500 บาท เล่นได้ 2 รอบ ก็คุ้มนะครับ รอบเดียวไม่พอแน่นอน.....
     (📌แนะนะให้ซื้อ Voucher มาจากไทยก่อนครับราคาจะถูกกว่าที่นี่เยอะครับ)
        
     มีตัวอย่าง VDO การเล่นที่นี่มาให้ดูด้วยครับ ขออนุญาตเจ้าของ VDO ด้วยนะครับ   
     credit this video : https://www.youtube.com/watch?v=p-CB3LX1eZw
     การเดินทางข้ามมาเกาะ Sentosa มีหลายวิธีครับ ครั้งนี้เราเดินทางโดยการใช้รถไฟรางจากห้าง 
     Vivo city ราคาถูกกว่าการใช้กระเช้าข้ามเกาะมากๆครับ ราคาแค่ 4 SGD/คน โดยลงที่สถานี Beach 
     Station แล้วเดินไปเล่น Skyline Luge ได้เลย
            
             🚈  Habour Front - China Town ใช้เวลาประมาณ 25 นาที 
     หลังจากสนุกกับการเล่นที่เกาะ Sentosa เราก็มาเดินหาซื้อของฝากราคาไม่แพงที่นี่เลย เน้นเลยครับ 
     ถูกกว่าที่สนามบินหลายเท่ายิ่งนัก
     


ทริปนี้เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากสักเท่าไร เพราะมีเจ้าตัวเล็กไปด้วย การเที่ยวในครั้งนี้เลยให้ความความสำคัญกับการพาลูกเที่ยวเป็นหลักเลย สิ่งที่ได้รับจากการพาลูกมาเที่ยวครั้งนี้ คือความสำเร็จเล็กๆที่เค้าสามารถไปยืนสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษกับคนแปลกหน้าในวัยแค่ 4 ขวบ ต้องยอมรับว่าสมัยก่อนผมเองไม่กล้าแม้แต่จะทักทายด้วยภาษาอังกฤษเลย...
ครั้งนี้รูปน้อยไปหน่อยครับ แก้ตัวคราวหน้าครับ...